Saturday, September 7, 2013

System Center Advisor – ภาคปฏิบัติ 2

 

กลับมาแล้วครับกับ System Center Advisor ภาคปฏิบัต 2 หลังจากที่ภาคแรก ผมได้อธิบายภาพรวมของ System Center Advisor ว่า Online Service จากไมโครซอฟต์ตัวนี้ให้บริการเกี่ยวกับอะไรบ้าง

มาถึงบทความนี้กันบ้างครับหลังจากที่ภาคแรกผมได้แสดงให้เห็นถึงวิธีการเตรียมเครื่องที่ทำหน้าที่เป็น Gateway และทำการติดตั้ง Agent ไปยัง server ที่ได้เตรียมขึ้นมาเพื่อจะให้ตัว System Center Advisor ลองเข้าไป analyze ระบบของ server ที่ผมเตรียมขึ้นมาเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เห็นหลักการทำงานและวิธีการทำงานคราวๆ ของตัว system center advisor กัน

เรามาลองดูข้อมูลที่ได้จากตัว system center advisor กันบ้างครับว่าหลังจากที่ได้เข้าไป analyze ระบบมาผลที่ได้จากการ analyze จาก system center advisor บอกอะไรเราบ้าง

อธิบายถึงเครื่อง server ที่ทางผมเตรียมขึ้นมาเพื่อใช้ในการสาธิตวิธีการทำงานในครั้งนี้ จะประกอบไปด้วย

1. Domain Controller (ติดตั้ง Agent)

2. SQL 2012 Server (ติดตั้ง Agent)

3. Gateway (รับข้อมูลจาก Agent และส่งต่อไปยัง Online Service ของ System Center Advisor)

 

ผลจากการวิเคราะห์ระบบของ system center advisor

ที่หน้าเพจ Overview

1

เริ่มมีรายละเอียดกับเครื่อง server ที่ทางผมได้ติดตั้ง agent ลงไปจากหน้า overview ก็จะมีการแบ่งหมวดหมู่ของ Alert ออกเป็น Critical Alert , Warning Alert ขึ้นอยู่กับ severity ที่ตัว advisor ทำการวิเคราะห์และเห็นถึงสิ่งผิดปกติ

ที่นี้เราลองคลิ๊กไปยัง Servers with Critical Alerts เป็นอันดับแรกดูก่อนครับว่าใน Critical Alert บอกข้อมูลของ Server ตัวใดและรายละเอียดของ Critical Alert คืออะไรบ้างดูครับ

Critical Alert 1จากที่ส่องข้อมูล (เหมือนส่องกบไหม 555) ดูแล้ว critical alert บอก description เราว่า SQL Server ยังไม่ได้ทำการ config เพิ่มเติมเพื่อให้ system center advisor เข้าไป monitor ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปวิเคราะห์ส่วนที่เกี่ยวกับ SQL Server ได้ 100% ดังนั้นตรงนี้เราต้องออกแรงเพิ่มอีกนิดครับ

สังเกตุดีๆ จะมีลิงค์ให้เรากดวิธีการที่ต้องทำเพิ่มครับ ตรงคำว่า Click here to view Solution / Knowledge base Article ก็จะลิงค์ไปยังหน้า technet ของไมโครซอฟต์และวิธีการที่ต้องทำเพิ่มบนเครื่อง SQL Server

SQL - Solution

จัดการซะ ไปที่เครื่อง SQL Server (หุหุ SQL Server นี้ถนัดนัก ไม่ใช่ DBA Admin ซะด้วยสิ) จัดการเปิด SQL Studio Management ขี้นมาเลยครับ copy คำสั่งจากหน้า technet วางไปที่ หน้า Query ที่เราสร้างรอไว้ครับ

Fix SQL

กด Execute แล้วรอเช็คผลครับ success หรือ fail

Fix SQL - Result

เรียบร้อย แก้ Critical Alert ของ SQL ได้แล้วหนึ่งเครื่อง

ถัดมาครับ ที่หน้าเพจ Overview ยังมี Warning Alert อีกเป็นลำดับถัดมาลองคลิ๊กเข้าไปดูกันครับ

Warning Alert 1

ที่บรรทัดแรกบอกรายละเอียดประมาณว่า SPN ไม่ถูกต้อง (missing SPNs MSSQLSvc/LON-SQL1.dctlab.local:53332) เหมือนเดิมครับถ้าขอตัวช่วยก็กดไปที่ลิงค์ Click here to view Solution / Knowledge Base Article

Fix SQL 2

วิธีการ เพิ่ม SPN เราสามารถทำบนเครื่อง Domain Controller โดยตรงได้เลยครับที่สำคัญ account ที่จะทำต้องมีสิทธ์ edit object บน AD ได้ครับ รัน command ตาม syntax จาก technet และข้อมูลจากหน้า wanring alert ได้เลยครับ

image

จบ warning alert ไปอีกหนึ่ง แต่ warning alert ยังเหลืออีกหนึ่งบรรทัดครับ เราไปดูบรรทัดถัดไปกันครับ

Warning Alert 2

Warning Alert ตัวนี้ผมไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่แจ้ง wanring เพื่อต้องการให้เราทำการกำหนดค่าของ Lock Pages in Memory privilege ลงไปในกรณีที่เครื่องเรามี Physical Memory เกิน 100 GB ซึ่งอาจจะส่งผลต่อเรื่อง Performance ตามมา

แต่เครื่อง VM ที่ผมติดตั้ง Memory ผม assign ไว้ที่ 5GB ดังนี้ Warning นี้ผมขอ Ignore เว้นไว้ละกันครับ ถ้ารู้เหตุผลแน่ชัดหรือผลกระทบต่อเรื่อง performance จริงๆ จึงจะพิจารณากำหนดค่าของ Lock Pages in Memory Privilege ในภายหลังครับ

 

ถัดจากเรื่อง Alert ผมมีอีกจุดหนึ่งที่อยากนำเสนอให้ทางผู้อ่านพิจารณาครับ เพราะเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์กรณีมีการทำ change เกิดขึ้นที่ตัว server แต่อาจจะไม่ได้เก็บข้อมูลค่า config เดิมไว้ว่าคืออะไร จำได้แค่ config ใหม่ที่เพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงเข้าไปครับ

หน้าเพจ Change History

Change History - SQL1

โดยผมแสดงในส่วนของเครื่อง SQL Server ละกันครับ เห็นภาพชัดเจนดี

ก่อนหน้านี้ผมทำการติดตั้ง SQL Server ไปก็ใช้ค่า default เดิมทุกอย่างเช่น MaxServerMemory แต่ถัดมาผมก็จำกัดขนาดของ MaxServerMemory ไว้ที่ 5GB ตัว Advisor ก็ได้เก็บ Change History ที่เกิดขึ้นบนเครื่อง SQL Server ของผมไว้และแสดงข้อมูลให้ทราบว่า ก่อนหน้านี้ค่า MaxServerMemory คือเท่าไหร่และเปลียนแปลงเป็นอะไร เป็นต้นครับ

image

ถือว่าตรงจุดนี้ Change History ช่วยในเรื่องข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบน server ของเราได้ดีทีเดียวครับ เพราะวันดีคืนดี server มีปัญหาขึ้นมาก็มานั่งไล่เช็คกันว่าช่วงที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับ server เราบ้างครับ

ตอนสุดท้าย มาถึงช่วงสุดท้ายแล้วครับ ผมขอสรุปภาพรวมของ online service ของ system center advisor ที่ทางไมโครซอฟต์เปิดให้บริการ มีประโยชน์ในเรื่องของการติดตั้ง microsoft server software ตามที่เคยนำเสนอในภาคแรกไปแล้วนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Best Practice ในการติดตั้งและ config การทำงานหรือองค์ประกอบโดยรวมของ software เพื่อให้ software ตัวนั้นๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด

รวมทั้งคอยติดตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบน server ของเราเพื่อที่จะใช้เป็นข้อมูลให้เราทราบความเคลี่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลง เวลาที่เกิดปัญหาก็สามารถเอาข้อมูลส่วนนี้เพื่อปรับการเปลี่ยนแปลงให้กลับเป็นค่าเดิมก่อนหน้า เพื่อให้ server เรากลับมาใช้งานได้เป็นปกติครับ

บทความนี้ก็หวังว่าท่านผู้อ่านผู้ติดตามบทความดีๆ จากผมจะได้รับความรู้และเห็นประโยชน์จาก System Center Advisor กันนะครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ

Sunday, September 1, 2013

System Center Advisor - ภาคปฏิบัติ 1

 

เกรินนำ – System Center Advisor คือ online service ที่ทางไมโครซอฟต์ให้บริการในส่วนของการวิเคราะห์การติดตั้งและใช้งาน Microsoft Server software.

SC Advisor จะทำการรวบรวมข้อมูลการติดตั้งของคุณ มาทำการวิเคราะห์ (anylyze) และทำการสร้างการแจ้งเตือนหลังจากที่ทำการวิเคราะห์ระบบของคุณที่ตัว advisor ตรวจพบเจอสิ่งที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาต่อไปในอนาคตเช่น ขาดการติดตั้ง security patch ที่สำคัญๆ ต่อระบบที่คุณใช้งานนั้นๆ หรือวิเคราะห์การติดตั้งของคุณเป็นไปตามที่ microsoft baseline best practices (ดูหัวข้อ product ที่รองรับในหัวข้อ Supported technologies for analysis) ต่อ software ตัวนั้นๆ ไหม? ไม่ว่าจะเป็นการ Configuration หรือ การใช้งาน advisor สามารถที่จะแสดงข้อมูลปัจจุบันหรือลักษณะข้อมูลย้อนหลังของค่า configuration ที่เกี่ยวข้องในระบบของคุณ

ความต้องการระบบก่อนใช้งาน - ก่อนที่คุณจะเริ่มใช้งาน System Center Advisor ระบบของคุณจำเป็นจะต้องมี product ดังต่อไปนี้ก่อน

image

image

image

image

 

ทำการสมัคร System Center Advisor Account

1. ไปตามที่อยู่ URL นี้ http://www.systemcenteradvisor.com  (ก่อนสมัคร advisor account ตรวจสอบก่อนว่าเครื่องคุณได้ทำการติดตั้ง Microsoft Silverlight แล้วหรือยัง?) กรณีไม่มี Account System Center Advisor มาก่อนให้เลือก Create Account

step1

2. Login ด้วย Microsoft Account (ถ้าไม่มีให้ทำการสมัคร Microsoft Account ก่อน)

step2

3. กรอกข้อมูลที่จำเป็น

Step3

4. ยอมรับข้อตกลงในการใช้งาน

Step4

5. Account Activated เรียบร้อย

Step5

 

First Look System Center Advisor

Overviews Page

1_Overview

Alerts Page

2_Alerts

Current Snapshot Page

3_Configuration - Current Snapshot

Change History Page

4_Configuration - Change History

Servers Page

5_Servers

Account Page

6_Account

 

ติดตั้ง System Center Advisor Gateway

1. ที่หน้า Servers Page กด Add/Setup button. จะปรากฎหน้านี้ขึ้นมา กด Next

Step6

2. กด Download Setup เพื่อดาวโหลดตัวติดตั้ง Gateways (Gateway + Agent) มาที่เครื่องที่เรากำหนดให้เป็น Gateway และ กด Download certificate เพื่อดาวโหลด certificate เพื่อใช้ในการติดตั้งมาเก็บไว้ที่เครื่องที่เรากำหนดให้เป็น Gateway

Step7

3. ตัวติดตั้งที่ดาวโหลดมาสามารถใช้เพื่อเป็นตัวติดตั้งไปยังเครื่องที่เราต้องการ (Agent) เพื่อให้ System Center Advisor ไป collect ข้อมูลมาเพื่อ analyze ในหน้านี้ให้ทำการกด Close ไป

Step8

4. Run SCAdvisorSetup.exe ที่เครื่อง Gateways ในหน้าแรกกด Next

1

5. หน้านี้กด I accept… และกด Next

2

6. กด Next.

3

7. เลือก Gateway และ Agent.

4

8. มีหน้าต่าง warning กด OK และ Next.

5

9. กด Install.

6

10. กด Finish.

7

11. หน้า advisor configuration wizard ระบุ location of certificate file ที่ทำการดาวโหลดมา

8

9

10

12. กด Commit เพื่อทำการ configure Advisor Gateway

11

13. ทำการ Configure Gateway เรียบร้อย

13

 

หลังจากติดตั้ง Gateway และ Agent เรียบร้อยแล้ว ลองเข้าไปตรวจสอบที่หน้า Servers Page ดูว่ามีรายการเครื่อง Gateway ที่เราติดตั้งเสร็จแล้วเพิ่มเข้ามาหรือยัง

14

 

ต่อจากนี้ไปก็ทำการติดตั้ง Agent เพิ่มบนเครื่องที่เราต้องการให้ Advisor ทำการ analyze ระบบให้ เพิ่มเติมเข้าไปแล้วก็รอให้ตัว gateway ส่งต่อข้อมูลไปยัง online service ของ microsoft อีกทีหนึ่ง

บทความหน้าเรามาตามติดวิธีการที่ System Center Advisor ทำการ analyze ข้อมูลแต่ละระบบว่า เราได้ประโยชน์อะไรจากการใช้ System Center Advisor ในการช่วยเราวิเคราะห์ระบบครับ

Wednesday, July 3, 2013

สั่ง ปิด/เปิด เครื่อง Hyper-V Host ด้วย SCVMM 2012


วันนี้ขออับเดตบล็อกในกลุ่ม System Center นิดนึงนะครับ ห่างหายไปนานไม่ได้อับเดตข่าวคราวอะไรเพิ่มเลย (_v_) งานหนุักมาก บ่องตงๆ
วันนี้ที่จะนำเสนอ feature ให้กับผู้ที่ใช้งาน product System Center Virtual Machine Manager อยู่นะครับว่าในกรณีที่ผมต้องการ Maintenance (shutdown หรือ restart) เครื่อง Hyper-V Host โดยที่เครื่อง Hyper-V นั้นเราเชื่อมต่อ OOB (out of band management) อยู่ด้วย
เราสามารถใช้ VMM สั่งงานได้เลยครับโดยที่ไม่ต้องรีโมตไปยังเครื่อง Hyper-V แล้วค่อยสั่งงานถ้าเราเปิด Console อยู่ก็สามารถจัดการผ่าน VMM Console ได้เลยครับ
ก่อนที่จะทำแบบนี้ได้อันดับแรกเลยคือ ต้องเชื่อมต่อกับ Hyper-V Host ผ่าน OOB  (HP:ILo , Dell : iDRAC , IBM: เค้าเรียกอะไรไม่รู้ไม่ได้จับ server ibm นานมาก ใครรู้เข้ามาอับเดตให้ด้วยก็ดีครับ)
ดังภาพ VMM เชื่อมต่อ OOB ของ Hyper-V Host อยู่
image

เมื่อเราคลิ๊กขวาที่ตัว Hyper-V Host จะสามารถเลือกเมนู Shutdown ได้ หรือ restart ได้
image
ถ้าเกิดไม่ได้เชื่อมต่อกับ OOB ของ Host เมื่อคลิ๊กขวาจะเห็นแบบนี้ครับ
ปุ่ม shutdown , reset, Power Off จะเห็นลางๆ กดเลือก option เหล่านี้ไม่ได้ครับ
image

ที่นี้เราจะ maintenance ระบบก็สามารถจัดการผ่าน VMM ได้เลยครับ
หวังว่าคงได้ idea นำไป adapt ใช้งานกันนะครับ แล้วเจอกันใหม่ครับ

Thursday, November 29, 2012

SCOM 2012 Console Access Internet by using Proxy Server

จากปัญหาที่เราเปิด SCOM Operations Manager Console เพื่อที่จะติดตั้ง Management Pack Online
ในกรณีที่เครื่องต้องออก Internet ผ่าน Proxy Server แต่โดย Default SCOM Console ไม่สามารถที่จะ access internet ผ่าน proxy ได้ก็ต้องมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นครับ

โดยให้เราเข้าไปแก้ไขข้อมูล file = Microsoft.EnterpriseManagement.Monitoring.Console.exe.config
และเพิ่มโค้ดเข้าไปที่ตำแหน่งด้านล่างของ </runtime>

<system.net>
< defaultProxy enabled="true" useDefaultCredentials="true">
< proxy usesystemdefault="True" />
< /defaultProxy>
< /system.net>

หน้าตาจะออกมาประมาณนี้ครับ


ที่นี้เราก็จะสามารถเปิด Console เพื่อติดตั้ง Management Pack โดยผ่าน Proxy ได้แล้วครับ จบ.!!!

Monday, April 30, 2012

Orchestrator - SCVMM 2012 IP Configure

 

หลังจากที่ได้ทำการ import SCVMM 2012 IP บน Deployment Manager เรียบร้อยแล้ว กำลังจะมาเขียน Runbook บน Runbook Designer ทำการ Configure SCVMM 2012 ใส่ข้อมูลอะไรเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว (ตามรูป)

image

ทำการ Design Runbook ไปได้ระดับหนึ่งในส่วนของการรอรับข้อมูลจาก Service Runbook Activity จาก Service Manager จนมาถึง Activity ของ SCVMM เองพอจะเข้าไปกำหนดค่าต่างๆ ดันเจอ Error เด้งขึ้นมาแบบนี้เข้าให้ เอาไงต่อดีละทีนี้ ????

image

จาก Error คราวๆ ดูแล้วว่าข้อมูลที่ใส่ใน SCVMM 2012 IP ไม่น่าจะจบแค่นั้นคิดว่าน่าจะต้องเตรียมอะไรอย่างอื่นเพิ่มบนเครื่อง SCVMM และ Orchestrator ก่อนแน่ๆ (ข้อมูลจาก Technet ตามไปที่นี้เลยครับ Link )

หลังจากลองปรับลองแก้ตาม Technet แล้วเมื่อทำการเข้าไป Configure VMM2012 Activity ก็จะสามารถกำหนดค่า Parameter ต่างๆ ได้แล้วครับ

image

 

ในหัวข้อถัดไปคอยติดตามในส่วนของการสร้าง Runbook เพื่อ Deploy VM โดยสั่ง Trigger Runbook จาก Orchestrator ให้สั่งงาน SCVMM อีกทีหนึ่ง

ตอนนี้ขอตัวไปหาข้อมูลและเทส Runbook ก่อนครับ ถ้า work เมื่อไหร่แล้วจะรีบมาอับเดตในหน้า Blog ของผมอีกทีหนึ่งครับ

Saturday, April 7, 2012

SC 2012 Operation Manager Key Concepts

 

Operation Manager ใช้ทำอะไร?

หลายคนได้ยินคำว่า Operation Manager ต่างคิดกันไปต่างๆ นาๆ ว่า Product Microsoft ตัวนี้เอาไว้ทำอะไรได้บ้าง มาลองดูแนวคิดหรือหลักการการทำงานของ Operation Manager ว่ามันมีประโยชน์อะไรกับระบบต่างๆ ขององค์ของเรากันครับ

บริษัทธุรกิจไม่ว่าจะเล็ก กลางหรือขนาดใหญ่ ต่างก็มี services และ applications ที่ให้บริการสำหรับพนักงานหรือลูกค้าเพื่อให้สามารถดำเนินงานทำให้มูลค่าเกิดขึ้นกับบริษัท

การที่เราจะให้บริการระบบ IT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แผนก IT เองจะต้องรับผิดชอบเรื่องการรับประกันว่าระบบจะมี performance และ การให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง กับ critical services และ applications ในบริษัท นั้นหมายความว่าแผนก IT ต้องล่วงรู้ว่าเมื่อไหร่จะเกิดปัญหา ถ้าเกิดปัญหาแล้ว IT ก็ต้องรู้ว่าเกิดปัญหาที่จุดไหน สาเหตุการเกิดปัญหาคืออะไร และจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่ว่ามา IT เองต้องรับรู้ปัญหาเป็นคนแรกในระบบก่อนที่ Users จะเจอปัญหาหรือได้รับแจ้งปัญหาจาก Users เองก็ตาม นี้เป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถของแผนก IT พอสมควร

นี้เป็นที่มาว่าทำไมเมื่อเราใช้ Operation Manager ในระบบของเรา จะทำให้เราสามารถ Monitor server ได้หลายๆ server พร้อมกัน หรือจะเป็น devices , services, และ applications ดูได้จากตัวอย่างหน้า console ของ Operation Manager ที่เราสามารถจะตรวจสอบ Health, Performance, and availability ของทุกๆ objects ใน Environments

Monitoring overview page of console

 

Operation Manager จะช่วยบอกเราว่า Objects ที่เราทำการ Monitor ส่วนไหนที่ผิดปกติ สามารถส่งการแจ้งเตือนเมื่อเกิดปัญหาที่ถูกเราระบุไว้และมีข้อมูลที่ช่วยเราสามารถหาสาเหตุที่มาของปัญหา และมีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหา

 

สรุปว่า Operation Manager จะมีประโยชน์กับระบบของเราคือ แจ้งเตือนให้เรารู้ตัวล่วงหน้าก่อนที่ปัญหาที่รุนแรงจะเกิดขึ้นเพื่อให้เราเตรียมหาวิธีการรับมือก่อนที่ปัญหาที่เกิดมันจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นจนใช้เวลาแก้ไขปัญหานานกว่าที่ควรจะเป็น