Thursday, November 29, 2012

SCOM 2012 Console Access Internet by using Proxy Server

จากปัญหาที่เราเปิด SCOM Operations Manager Console เพื่อที่จะติดตั้ง Management Pack Online
ในกรณีที่เครื่องต้องออก Internet ผ่าน Proxy Server แต่โดย Default SCOM Console ไม่สามารถที่จะ access internet ผ่าน proxy ได้ก็ต้องมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นครับ

โดยให้เราเข้าไปแก้ไขข้อมูล file = Microsoft.EnterpriseManagement.Monitoring.Console.exe.config
และเพิ่มโค้ดเข้าไปที่ตำแหน่งด้านล่างของ </runtime>

<system.net>
< defaultProxy enabled="true" useDefaultCredentials="true">
< proxy usesystemdefault="True" />
< /defaultProxy>
< /system.net>

หน้าตาจะออกมาประมาณนี้ครับ


ที่นี้เราก็จะสามารถเปิด Console เพื่อติดตั้ง Management Pack โดยผ่าน Proxy ได้แล้วครับ จบ.!!!

Monday, April 30, 2012

Orchestrator - SCVMM 2012 IP Configure

 

หลังจากที่ได้ทำการ import SCVMM 2012 IP บน Deployment Manager เรียบร้อยแล้ว กำลังจะมาเขียน Runbook บน Runbook Designer ทำการ Configure SCVMM 2012 ใส่ข้อมูลอะไรเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว (ตามรูป)

image

ทำการ Design Runbook ไปได้ระดับหนึ่งในส่วนของการรอรับข้อมูลจาก Service Runbook Activity จาก Service Manager จนมาถึง Activity ของ SCVMM เองพอจะเข้าไปกำหนดค่าต่างๆ ดันเจอ Error เด้งขึ้นมาแบบนี้เข้าให้ เอาไงต่อดีละทีนี้ ????

image

จาก Error คราวๆ ดูแล้วว่าข้อมูลที่ใส่ใน SCVMM 2012 IP ไม่น่าจะจบแค่นั้นคิดว่าน่าจะต้องเตรียมอะไรอย่างอื่นเพิ่มบนเครื่อง SCVMM และ Orchestrator ก่อนแน่ๆ (ข้อมูลจาก Technet ตามไปที่นี้เลยครับ Link )

หลังจากลองปรับลองแก้ตาม Technet แล้วเมื่อทำการเข้าไป Configure VMM2012 Activity ก็จะสามารถกำหนดค่า Parameter ต่างๆ ได้แล้วครับ

image

 

ในหัวข้อถัดไปคอยติดตามในส่วนของการสร้าง Runbook เพื่อ Deploy VM โดยสั่ง Trigger Runbook จาก Orchestrator ให้สั่งงาน SCVMM อีกทีหนึ่ง

ตอนนี้ขอตัวไปหาข้อมูลและเทส Runbook ก่อนครับ ถ้า work เมื่อไหร่แล้วจะรีบมาอับเดตในหน้า Blog ของผมอีกทีหนึ่งครับ

Saturday, April 7, 2012

SC 2012 Operation Manager Key Concepts

 

Operation Manager ใช้ทำอะไร?

หลายคนได้ยินคำว่า Operation Manager ต่างคิดกันไปต่างๆ นาๆ ว่า Product Microsoft ตัวนี้เอาไว้ทำอะไรได้บ้าง มาลองดูแนวคิดหรือหลักการการทำงานของ Operation Manager ว่ามันมีประโยชน์อะไรกับระบบต่างๆ ขององค์ของเรากันครับ

บริษัทธุรกิจไม่ว่าจะเล็ก กลางหรือขนาดใหญ่ ต่างก็มี services และ applications ที่ให้บริการสำหรับพนักงานหรือลูกค้าเพื่อให้สามารถดำเนินงานทำให้มูลค่าเกิดขึ้นกับบริษัท

การที่เราจะให้บริการระบบ IT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แผนก IT เองจะต้องรับผิดชอบเรื่องการรับประกันว่าระบบจะมี performance และ การให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง กับ critical services และ applications ในบริษัท นั้นหมายความว่าแผนก IT ต้องล่วงรู้ว่าเมื่อไหร่จะเกิดปัญหา ถ้าเกิดปัญหาแล้ว IT ก็ต้องรู้ว่าเกิดปัญหาที่จุดไหน สาเหตุการเกิดปัญหาคืออะไร และจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่ว่ามา IT เองต้องรับรู้ปัญหาเป็นคนแรกในระบบก่อนที่ Users จะเจอปัญหาหรือได้รับแจ้งปัญหาจาก Users เองก็ตาม นี้เป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถของแผนก IT พอสมควร

นี้เป็นที่มาว่าทำไมเมื่อเราใช้ Operation Manager ในระบบของเรา จะทำให้เราสามารถ Monitor server ได้หลายๆ server พร้อมกัน หรือจะเป็น devices , services, และ applications ดูได้จากตัวอย่างหน้า console ของ Operation Manager ที่เราสามารถจะตรวจสอบ Health, Performance, and availability ของทุกๆ objects ใน Environments

Monitoring overview page of console

 

Operation Manager จะช่วยบอกเราว่า Objects ที่เราทำการ Monitor ส่วนไหนที่ผิดปกติ สามารถส่งการแจ้งเตือนเมื่อเกิดปัญหาที่ถูกเราระบุไว้และมีข้อมูลที่ช่วยเราสามารถหาสาเหตุที่มาของปัญหา และมีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหา

 

สรุปว่า Operation Manager จะมีประโยชน์กับระบบของเราคือ แจ้งเตือนให้เรารู้ตัวล่วงหน้าก่อนที่ปัญหาที่รุนแรงจะเกิดขึ้นเพื่อให้เราเตรียมหาวิธีการรับมือก่อนที่ปัญหาที่เกิดมันจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นจนใช้เวลาแก้ไขปัญหานานกว่าที่ควรจะเป็น

Sunday, April 1, 2012

How to Add Knowledge to Management Pack

ในบทความนี้ผมขอนำเอาวิธีการที่สร้าง Company Knowledge เพิ่มเข้าไปยัง Management Pack เพื่อใช้เป็นข้อมูลหรือไว้ให้ในทีม IT ด้วยกันเองได้ใช้งาน ในกรณีที่บางครั้งอาจจะมี IT คนอื่นๆ มาเจอเคสปัญหาเดียวกันกับคนก่อนหน้าที่เคยเจอ แต่อาจจะไม่รู้วิธีการแก้ไขปัญหา แต่ว่า IT คนก่อนหน้าได้ที่เคยเจอเคสปัญหานี้แล้ว และได้มีเขียนอธิบายถึงสาเหตุของปัญหาและวิธีการแก้ไขไว้ให้เรียบร้อยแล้ว คนที่มาเจอปัญหาเคสเดิมซ้ำอีกจะได้มีข้อมูลเพื่อซ่อมแซมระบบให้กลับมาทำงานเป็นปกติก่อนที่จะเกิดปัญหาร้ายแรงขึ้น
ก่อนที่เราจะเริ่มขั้นตอนว่าวิธีการเพิ่มองค์ความรู้เข้าไปในระบบของ Management Pack เองนั้นทำอย่างไร เรามาเตรียมพร้อมสิ่งที่จะต้องมีกันก่อนครับ (อ้างอิงเพื่อใช้งานบน SC 2012 Operation Manager)

Software Requirements:

  • Operation Console ต้องติดตั้งบน 32-bit Computer. Adding/Editing Company knowledge ต้องทำบนเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนี้
  • MS Office Word 2003 with .NET Programmability feature, or MS Office Word 2007 or MS Office 2010 Professional Edition (Standard Edition is not supported Sad smile)
Note MS Office Word 2010 only 32-bit version is supported
  • Microsoft Visual Studio 2005 Tools for Office Second Edition Runtime (Link Download)

Setup Step:

1. ณ เครื่อง Helpdesk ที่เราติดตั้ง Operation Manager Console ไว้เพื่อติดต่อไปยัง Management Server ให้เราทำการติดตั้ง Microsoft Office Word ตาม version ที่เรามีครับ.
(ตอนติดตั้ง Management Console ตอนเช็ค Prerequisites ถ้าขาด Report Viewer ให้ดาวโหลด version 2008 มานะครับใครดาวโหลด 2010 SP1 มาเช็คยังไงก็ไม่ผ่านนะครับ)
image
2. ดาวโหลด MS Visual Studio 2005 Tools for Office Second Edition Runtime และติดตั้งลงบนเครื่องที่ติดตั้ง Operation Console.
3. ในกรณีที่ต้องการเพิ่ม Company Knowledge ให้เลือก Destination Management Pack จากนั้นคลิ๊ก Edit
image
4. หลังจากคลิ๊กปุ่ม Edit จะมีหน้า Word Template สำหรับกรอกข้อมูล Knowledge ที่ต้องการลงไป หลังจากกรอกข้อมูลเรียบร้อยคลิ๊ก Save ข้อมูลที่ word
image
5. หลังจากปิดโปรแกรม word ไปแล้วหลังจากที่เรากรอกข้อมูลเรียบร้อยไปแล้ว ย้อนกลับมาที่ Tab Company Knowledge ที่เราเปิดค้างไว้ให้กด Save อีกครั้งหนึ่ง ข้อมูลที่เรากรอกลงไปที่ตัว word ก็จะทำการ บันทึกข้อมูลใน MP ที่เราได้เลือกไว้แล้วครับ
image

Thursday, March 29, 2012

การติดตั้ง Windows Server Core OS Management Pack สำหรับ SC2012 Operation Manager

 

สำหรับบทความนี้ เราจะทำการติดตั้ง Management Pack ของ SC2012 OM ที่เราได้ติดตั้งไปแล้วในบทความก่อนหน้า เพื่อที่จะให้ตัว Operation Manager เข้าไปทำการตรวจสอบการทำงานของ Windows Server Core OS
โดยขั้นตอนจะมีดังนี้
1.เปิด OM Console ไปที่ Administrator Workspace –> Management Packs
image
2.คลิ๊กขวา จากนั้นเลือกรายการเมนูว่าเราจะดาวโหลด MP มาไว้ที่เครื่อง (Download Management Pack…) หรือจะ Import Management Pack…) โดยตรงไม่ต้องดาวโหลดมาไว้ที่เครื่อง
1 - Import Core OS MP
3.หลังจาก Import Windows Server Core OS version ที่ต้องการแล้วขั้นตอนถัดไปเราจะทำการติดตั้ง System Center Operation Manager 2012 Agent ไปยังเครื่องที่เราต้องการ Monitor โดยไปที่  Administrator – > Agent Managed
image
4.คลิ๊กขวาเลือก Discovery Wizard.. –> WIndows Computers –> Advanced Discovery (Computer and Device Classes: Servers) –> ระบุชื่อเครื่องลงไป (กรณีติดตั้ง Agent จำนวนไม่เยอะแต่ในกรณีที่ต้องการติดตั้งพร้อมกันหลายๆ เครื่องให้เลือกเป็น Scan Active Directory แทน)
image
5.ระบุ Account ที่มีสิทธิ์ติดตั้ง software บนเครื่องที่เราจะติดตั้ง Agent หรือจะใช้เป็น MSA Account ที่กำหนดไว้ตอนที่ติดตั้งระบบก็ได้แต่ต้องมั่นใจว่ามี privilege ได้ตามต้องการ จากนั้นคลิ๊ก Discover
image
6.ผลของการค้นหาเครื่องที่เราต้องการจะติดตั้ง Agent นั้นถ้าเครื่องมีตัวตนจริงและเครื่องเปิดอยู่ก็จะโชว์ช่ือเครื่องขึ้นมาเราก็ติ๊กเลือกและกด Next
image
7.Summary Pages กำหนดพารามิเตอร์ที่ต้องการลงไปจากนั้นกด Finish เพื่อติดตั้ง Agent
image
8.ผลลัพธ์จากการติดตั้ง Agent ถ้าไม่ติดเรื่องสิทธิ์ของ Account ผลที่ได้ควรจะ success
image

ในบทความนี้เราได้ทำการ Import Windows Server ที่เป็น Core OS เพื่อทำการ Monitor การทำงานของ Windows Server ตาม Version ที่เราต้องการ Monitor แต่ยังไม่ได้ทำการ Import MP สำหรับ Roles, Service ที่ทำงานบนเครื่อง Server นั้นๆ เพราะว่าพื้นฐานของการจัดการเรื่อง Monitoring บน Windows Server Base จะต้องจัดการที่ระดับ Core OS เป็นพื้นฐาน ถ้าการจัดการ Core OS MP ไม่ดีก็จะส่งผลกับ MP อื่นๆ ที่เราได้ติดตั้งเพิ่มเข้ามาในภายหลัง

สำหรับบทความหน้า เราจะมาดูตัวอย่างวิธีการปรับแต่ง Core OS MP เพื่อให้เหมาะสมกับ Environment ของเรา ซึ่ง Core OS MP ที่เราได้ทำการติดตั้งไปนั้นจะเป็นค่าที่เป็น Best Practice ที่ควรจะเป็น แต่ว่าค่าเหล่านั้นอาจจะไม่เหมาะสมกับองค์กรหรือ Environment ของเรา เราก็ต้องมาปร้บแต่งค่าต่างๆ ให้เหมาะสมกับระบบของเราหรือที่เราเรียกว่าการ (Fine-Tune)

Wednesday, March 28, 2012

วิธีติดตั้ง SC 2012 Operation Manager RC

สำหรับบทความนี้ขอพูดถึง Product SC 2012 Operation Manager เป็น System Center Family หนึ่งใน 8 products ที่ทำหน้าที่ในการให้บริการ End-to-End Monitoring ไม่ว่าจะเป็นการ Monitoring Windows Server Base, Service, Application และยังสามารถ Monitoring Network Devices ไม่ว่าจะเป็น switch หรือ router เองก็ตาม

ในบทความนี้เราจะเริ่มต้นจากการติดตั้ง Product ตัวนี้กันก่อนครับ

Preparing Environment

1.  เครื่อง Domain Controller ให้เตรียม promote domain ที่เราต้องการเตรียมไว้

2. เครื่อง Server ที่เราจะไว้ใช้ติดตั้ง SC 2012 Operation Manager RC Version (system requirement เพิ่มเติมคลิ๊ก)

มาเริ่มกันเลยครับ

1.เครื่อง server ที่เราจะติดตั้ง SC2012 Operation Manager ให้เราติดตั้ง SQL 2008 R2 เตรียมไว้ครับ (ลง component: Database Engine, Reporting Service, Mgmt Tools)

2.ดาวโหลด software SC2012 Operation Manager RC ได้จากลิงค์นี้ครับ System Center 2012 Evalution

3.Extract ตัวติดตั้งที่ดาวโหลดมาเลือกเฉพาะตัว Operation Manager เท่านั้น

image

4.Run Setup เพื่อติดตั้ง

image

5.คลิ๊ก Install และกำหนด component ที่ต้องการติดตั้ง (ในที่นี้ผมเลือกลงทุก component)

image

6.กำหนด Path ในการติดตั้ง software

image

7. ในหน้า Prerequisites ใครเจอ Error หรือไม่ได้ติดตั้งอะไรก็ให้แก้ไขจนในส่วนของ Prerequisites ไม่มี Error

image

8.หลังจากแก้ไขไม่ให้มี Error

image

9.กำหนดชื่อ Management Group Name

image

10.ติ๊กยอมรับข้อตกลง

image

11.ระบุชื่อเครื่องที่ได้ทำการติดตั้ง SQL2008 R2 รอไว้เพื่อสร้าง Operation Manager Database (ติดตั้งบนเครื่องเดียวกัน)

image

12.กำหนดชื่อเครื่องเพื่อสร้าง Data Warehouse Database

image

13.ระบุ SQL Server Instance สำหรับ Reporting Services

image

14.ระบุ Web Site เพื่อใช้สำหรับ Web Console

image

15.เลือกรูปแบบ Authentication Method เวลาเข้าใช้งาน Web Console

image

16.กำหนด Operation Manager Accounts

image

17.เลือกได้ตามศรัทธาครับ

image

18.Microsoft Update

image

19.Installation Summary

image

20.จิ๊บกาแฟรอครับ…………..

image

21.Setup is Complete

image

22. เปิดดูหน้า Console กันสักนิดนึง

image

Friday, March 9, 2012

วิธีติดตั้ง TalkingHeads .Net Application เพื่อใช้ทดสอบรวมกับ AVICode (Part1)

AVICode เป็น Product ตัวหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของ System Center หน้าที่ของ AVICode ใช้เพื่อคอยตรวจสอบ Performance
การเข้าใช้งานของ Web Application ที่พัฒนาบน .Net Framework แต่การที่เราจะทดสอบ AVICode เองก็ต้องมี Web Application ที่พัฒนาบน .Net Framework บนเว็บไซต์ที่มีให้ดาวโหลด Web Application สำเร็จรูปเองก็จะมีให้เลือกอยู่
2 choices ตัวแรกคือ Stock Trader และ DinnerNow ซึ่งทั้งสองตัวเป็น Application ที่พัฒนาบน .Net Framework เช่นกัน
เพียงแต่ว่า WorkFlow ของทั้งสอง Application นั้นอาจจะดูซับซ้อนมากไปสำหรับ เราๆ ที่ไม่ได้มาทางสายโปรแกรมเมอร์
ดังนั้นวันนี้ผมมี Application ตัวหนึ่งที่โครงสร้างไม่ซับซ้อนมาก และสามารถนำมาใช้งานเพื่อทดสอบร่วมกับ AVICode ได้เช่นกันครับ

ทำความเข้าใจกับ Talking Head Application ตัวนี้กันก่อนครับ

TalingHeads_Architechture

Architecture ของ Talking Head จะเป็นลักษณะ Web Application แบบ Three Tier Application
ประกอบไปด้วย
ส่วนที่หนึ่ง: Web Front-End (Front-Tier)
ส่วนที่สอง: Web Service (Middle-Tier)
ส่วนที่สาม: Database (Back-Tier)

ซึ่งปกติเวลาติดตั้งจริงๆ ถ้าให้เป็นไปตาม Design เราต้องใช้เครื่องทั้งหมด 3 Server ด้วยกัน แต่ว่าสิ่งที่เราต้องการคือเพื่อทดสอบการทำงานของ AVICode เท่านั้น
ดังนั้นวิธีติดตั้ง Talking Head ที่ผมจะทำคือติดตั้งทุก Tier บน Server แค่ตัวเดียวครับ

ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม
1. ขั้นตอนแรกที่เครื่อง Server ที่เราจะติดตั้ง TalkingHeads ให้ทำการติดตั้ง SQL 2008 R2 (database engine) เตรียมไว้ครับ
2. ไปดาวโหลดตัวติดตั้ง Talking Head จากเว็บไซต์ TalkingHeads
3. ตัวติดตั้งที่ดาวโหลดมา TalkingHeads.zip เมื่อทำการแตกไฟล์ zip ออกมาจะได้ file ตามนี้
- TalkingHeads Demo Application Guideline.docx
- TalkingHeads.msi  (ใช้ติดตั้งในส่วนของ Front-Tier)
- TalkingHeadsMidtier.msi (ใช้ติดตั้งในส่วนของ Middle-Tier)
4. เครื่องที่เราติดตั้ง SQL 2008 R2 รอไว้
5. ติดตั้ง Web Server Role ลงไป + .Net Framwork 3.5.1 SP1  -> ติดตั้งเสร็จทำการ Run Windows Update เพื่อ update .Net Framework 3.5 –> 4.0 (TalkingHead พัฒนาบน .Net Framework 4.0)
image
6. ทำการติดตั้ง TalkingHeads.msi ในส่วนของ Front-Tier (ใช้ค่า default เดิมที่กำหนดมา)
image
image
image
image
7. ทำการติดตั้ง TalkingHeadsMiddleTier.msi ในส่วนของ Middle-Tier (ใช้ค่า default เดิมที่กำหนดมา)
image
image
image
image
8.ทำการตรวจสอบโปรแกรมที่ติดตั้งไปบน IIS Manager Console ต้องมี Virtual Directory ขึ้นมาตามนี้
image
9.ทำการ setup TalkingHeads Database
9.1 เปิด Browser IE แล้วเข้าไปที่ URL http://localhost/talkingheads
image
*** ถ้าใครเข้าหน้าเพจแล้วขึ้น Error ประมาณนี้ให้แก้โดย
                                     ไปที่ IIS Manager –> Application Pools –> DefaultAppPool (เดิมเป็น .Net Framework v2.0 เปลี่ยนเป็น v4.0)
                                      image
                                       ไปที่ IIS Manager –> Server Name –>  ISAPI and CGI Restrictions
                                       image
                                           คลิ๊กขวาแล้วเลือก Allow ทั้งสอง รายการที่ Highlight สีเหลืองไว้
                                           image
                                           หลังจากแก้แล้วต้องได้หน้าตาออกมาประมาณนี้ (จากนั้นรันคำสั่ง iisreset ครั้งหนึ่ง)
                                           image
                                
  หลังจากเปิดหน้าแรกขึ้นมาให้ไปที่ Setup Tab
image
ให้สังเกตุว่าการเชื่อมต่อกับ Database Engine ปกติหรือไม่
(ถ้าเกิดใครขึ้น Login Failed for user ‘IIS APPPOOL\DefaultAppPool’)     
image
ให้แก้ไขโดยเปิด IIS Manager –> Default Web Site –> TalkingHeadsMidtier –> Connection  Strings –> ModelContainer
Connection Strings เดิม
image
Connection Strings ใหม่ (โดยระบุ user ที่ connect กับ database ลงไป)
image
หลังจากนั้นลองเข้าหน้าเพจ –> Setup Tab ครั้งต้องได้ข้อความข้างล่างเพจประมาณนี้
image
จากนั้นกดปุ่ม Seed Database แล้วรอจนกว่า process จะทำการ random ข้อมูลจาก Start Date จนถึง End Date จะครบ 100%
image

หลังจากทำการ Initial Database เรียบร้อยแล้วระบบ TalkingHeads Application ที่เราได้ติดตั้งไปนั้นจะพร้อมสำหรับใช้ทดสอบร่วมกับ AVICode แล้วครับ